แผนร้ายของป๋าแสบ
พอย่างเข้าสู่วันที่สาม
เมื่อเห็นว่าเพื่อนของน้องสาวยังสิงสถิตอยู่ที่บ้านของเขาไม่ยอมกลับบ้านตัวเองง่ายๆ
รพัทธ์ก็ยิ่งร้อนใจอย่างบอกไม่ถูก
“เพื่อนจันทร์ไม่มีบ้านมีซ่อง
หรือครอบครัวรึไงถึงไม่ยอมกลับบ้านซะที?”
รพัทธ์แอบถามน้องสาวเมื่ออยู่ตามลำพัง
พยายามหาข้อมูลเกี่ยวกับศัตรูฝั่งตรงข้ามให้มากที่สุด
“พ่อแม่ฝันอยู่โคราชค่ะ
ฝันมีพี่ชายเป็นนักข่าว แต่พี่ชายตอนนี้ไปทำข่าวต่างประเทศ
ฝันเองก็เพิ่งจบปริญญาตรีเหมือนจันทร์ กำลังว่างงานอยู่เธอไม่อยากอยู่บ้านคนเดียวจันทร์เลยบอกให้เธอมาอยู่บ้านเราชั่วคราว
พี่ชายคงไม่ว่านะคะ บ้านเราก็ออกจะใหญ่โต มีหลายห้อง
ถ้าฝันมาอยู่ด้วยบ้านเราจะได้ไม่เหงาไงคะ”
“อ้อ! อย่างนี้นี่เอง
แล้วเพื่อนน้องทำไมไม่รู้จักหางานหาการทำซะบ้างล่ะจบถึงปริญญาตรี”
รพัทธ์ซัก
ผู้น้องสาวว่า
“ฝันก็คงกำลังหางานอยู่กระมังคะ
อ้อ! พี่คะพี่ถามขึ้นมาก็ดีแล้วค่ะ
พี่ช่วยหาตำแหน่งงานในบริษัทให้ฝันทำหน่อยสิคะ”
“ห๊ะ!”
รพัทธ์แค่อยากรู้จุดอ่อนของศัตรูเท่านั้นเอง
แต่ไม่คิดว่าน้องสาวจะขอร้องเรื่องหาตำแหน่งงานให้เพื่อนของเธอ
“นะคะพี่พัทธ์ พี่ช่วยหาตำแหน่งงานว่างให้เพื่อนหนูหน่อย
ถ้าฝันรู้เธอคงดีใจมากเลยแหละ”
“เอ่อ
แล้วเพื่อนน้องจบอะไรมา?”
รพัทธ์ได้แต่ทำหน้าพะอืดพะอม
“เอกพลศึกษาค่ะ
ฝันเก่งเรื่องกีฬา พวกคาราเต้ หมัดมวยเธอชอบนักแหละ”
“ฮ้า! ล้อพี่เล่นหรือเปล่า
จะให้คนจบเอกพลศึกษามาทำงานบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของพี่นี่นะ?”
รพัทธ์ร้องเสียงหลงเมื่อได้ยิน
“ขอร้องนะคะพี่ชายช่วยเพื่อนน้องหน่อย
ถือว่าน้องขอเป็นของขวัญต้อนรับการกลับเมืองไทยก็แล้วกันนะคะ”น้องสาวคะยั้นคะยอจนพี่ชายเริ่มใจอ่อน
“เฮ่ย! แล้วเพื่อนจันทร์เธอถนัดอะไรล่ะ?”
รพัทธ์เอ่ยถามอย่างเสียไม่ได้
แต่คนตอบกลับไม่ใช่รินจันทร์
“ถนัดเตะคนค่ะ”
จู่ๆ พาฝันก็โผล่พรวดเข้ามาในห้องขัดจังหวะการสนทนาของสองพี่น้อง
หล่อนถือวิสาสะเดินเข้าไปนั่งข้างๆ
รินจันทร์ที่โซฟาและโอบกอดคอเพื่อนสาวต่อหน้าต่อตาพี่ชายของหล่อน
รพัทธ์เห็นแล้วก็ได้แต่นึกหมั่นไส้ คิดอยากกำจัดพาฝันไปให้พ้นๆ เสียจากน้องสาวโดยเร็ว
“เอ้าๆ ก็ได้ๆ
ถ้าเธอถนัดเตะก็มาเป็นบอดี้การ์ดฉันก็แล้วกัน กำลังมองหาบอดี้การ์ดอยู่พอดี
เอาไว้กันหมากัด”
ด้วยอารมณ์ชั่ววูบต้องการกำจัดเด็กสาวนั้นทำให้รพัทธ์ตัดสินใจพูดออกไป
และหวังว่าคำพูดของเขาจะกระแทกความรู้สึกอีกฝ่ายให้เจ็บใจเล่นบ้างไม่มากก็น้อย แต่กลับไม่มีเลย
“โอ้! มายก๊อด ลุงพูดจริงหรือเปล่าคะเนี่ย
จะจ้างข้อยจริงๆ หรือคะ?”
พาฝันร้องขึ้นเป็นสำเนียงคนโคราช
ทำเอาชายหนุ่มงงเป็นไก่ตาแตก
“จริงสิ
พี่พัทธ์เป็นคนพูดคำไหนคำนั้น”
รินจันทร์ตอบแทนพี่ชายที่เอาแต่นั่งทื่อเหมือนสมองไม่สั่งการ
สงสัยเขาจะแก่เกินไปเลยตามเด็กสมัยนี้ไม่ทัน รพัทธ์คิด สุดท้ายเลยต้องเออออห่อหมกไปกับน้องสาว
**********
“จะให้ทำอะไรบ้างล่ะลุง?”
พาฝันถามรพัทธ์ระหว่างเดินเข้าบริษัทอสังหาริมทรัพย์
อาร์.พี.ดรีมแลนด์ จำกัด (มหาชน) อันดับหนึ่งของเมืองไทย
“ไปถึงห้องค่อยบอก
แต่เธอคิดว่าทำไหวแน่นะ?”
ในหัวรพัทธ์มีแผนร้ายอยู่เต็มไปหมด
บอกกับตัวเองว่า ไม่เกินหนึ่งเดือนเด็กสาวคนนี้จะต้องถูกเขากำจัดออกไปจากชีวิตน้องสาวของเขาแน่นอน
“ลุงเป็นเจ้าของตึกนี้ทั้งหมดเลยหรือ?”
เด็กสาวหันมองไปรอบๆ
เห็นตึกใหญ่โตและพนักงานมากมายก็อดตื่นเต้นไม่ได้
“ถึงขนาดอึ้งไปเลยสิยัยทอม
ทีนีรู้แล้วยังว่าฉันรวยแค่ไหน ดูสิพนักงานฉันเป็นหมื่นๆ
คนอย่างเธอเด็กเมื่อวานซืนจะมาสู้เจ้าพ่อธุรกิจยักษ์ใหญ่แบบฉันได้ยังไง”
รพัทธ์ได้แต่นึกสะใจที่เห็นเด็กสาวมีท่าทางเหลอหลาเหมือนบ้านนอกเข้ากรุง
“ก็ใช่น่ะสิ เป็นไง
เห็นยังว่าฉันรวยขนาดไหน?”
“ถ้างั้นลุงก็มีเงินเยอะน่ะสิ?”
พาฝันถาม
รพัทธ์หัวเราะเสียงดัง
“ถามอะไรแปลกๆ
มีเยอะจนคนอย่างเธอนึกไม่ถึงเลยแหละจะบอกให้ เงินฉันใช้ไปถึงร้อยชาติก็ยังไม่หมด”ได้ทีรพัทธ์ก็เริ่มอวดเบ่งเสียยกใหญ่
“โอ้โฮ! งั้นลุงเลี้ยงข้าวฉันสักมื้อสิ
หิวแล้วอ่ะ แค่นี้ขนหน้าแข้งลุงคงไม่ร่วงหรอก ก็รวยเสียขนาดนี้”
เด็กสาวกล่าวหน้าตาย
หนุ่มใหญ่หันมองหล่อนเหมือนไม่เชื่อหูตัวเองคิดในใจ
“โดนเด็กหลอกอีกแล้วกู”
“ได้มั้ยอ่ะ
ลุงรวยนักไม่ใช่เหรอ แค่เลี้ยงข้าววันละมื้อคงไม่เป็นไรมั้ง”
“ห๊า! ยังจะมีมื้อต่อไปอีกรึ
นี่เธอล้อฉันเล่นอยู่รึไง ฉันเป็นใคร เธอเป็นใคร?”
“รู้แล้วว่าลุงเป็นเจ้านาย
ฉันเป็นลูกจ้าง แต่คนเป็นเจ้านายต้องดูแลลูกน้องให้ดีๆ สิ
ถ้าลูกน้องหิวตายเพราะไม่มีเงินซื้อข้าวกินนี่มันน่าอายนะ ฉันน่ะไม่อายหรอก
แต่ลุงสิต้องอายที่ปล่อยให้ลูกน้องหิวจนตาย”
คำพูดของเด็กสาวทำให้ประธานหนุ่มใหญ่แทบคลั่ง
ไม่ว่าจะเอ่ยอะไรออกมาก็เข้าทางของหล่อนหมด
“เอ้อๆ
อยากกินอะไรก็ตามใจ กินให้ท้องแตกไปเลยยัยบ้า”
รพัทธ์ว่าเสียงกระฟัดกระเฟียด
พาฝันถือวิสาสะดึงมือเขาไปที่ร้านอาหารภายในอาคาร ชายหนุ่มถึงกับรีบสะบัดมือเล็กออกทันที
หันไปมองรอบๆ ก็เห็นพนักงานทุกคนกำลังมองมายังเขากับพาฝันด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“ปล่อยสิ
เธอจะมาจับมือฉันทำไม คนอื่นมองกันใหญ่แล้วยัยทอม ปล่อย!”
“อ้าว! ลุงจะอายทำไม ฉันเป็นบอดี้การ์ดจับมือแค่นี้ไม่สึกหรอหรอก
ลุงเป็นเจ้ามือต้องเทคแคร์กันหน่อย”พาฝันกล่าวอย่างอารมณ์ดี
พลางดึงมือประธานหนุ่มเข้าไปนั่งที่โต๊ะว่าง
พนักงานชายหญิงต่างพากันก้มหน้าก้มตาไม่กล้าหันไปมองรพัทธ์ที่เอาแต่ทำหน้าบูดบึ้ง
พอรับประทานอาหารเสร็จ
รพัทธ์ก็นำพาฝันขึ้นไปยังห้องทำงาน เลขาสาวหน้าห้องวัยสามสิบตอนต้นถึงกับกระวีกระวาดเข้ามาหา
“เจ้านายขานี่ค่ะแฟ้มเอกสารสำหรับเซ็นวันนี้
แล้วตอนบ่ายจะมีประชุมผู้บริหารด้วยนะคะเรื่องโครงการสร้างบ้านในฝันที่ปากช่อง
และพรุ่งนี้ตอนสิบโมงครึ่ง ผู้จัดการของคุณคริสโตเฟอร์ มาร์ติน ได้โทร.มาแจ้งเรื่องนัดเซ็นสัญญาเป็นนายแบบให้กับบริษัทเราแล้วค่ะ”
“เข้าใจละ คุณจิตตรานี่บอดี้การ์ดคนใหม่ของผมเธอชื่ออะไรนะ?”
รพัทธ์หันไปถามทางพาฝันที่ยืนตรงอยู่ข้างๆ เขา
“พาฝันฮะ”
เด็กสาวแนะนำตัวเองเสียงดังฟังชัด
เลขาสาวหน้าห้องหันมองเด็กสาวเหมือนไม่เชื่อหูตัวเองที่ได้ยิน เพราะพาฝันรูปร่างบอบบางเกินกว่าจะเป็นบอดี้การ์ดให้กับรพัทธ์ได้
“บอดี้การ์ดยังงั้นหรือคะ
ไม่เคยเห็นเจ้านายจ้างบอดี้การ์ดมาก่อน”
“ก็ไม่เคยจ้างไง
ตอนนี้ถึงอยากจะลองจ้างดูบ้าง คุณออกไปได้แล้วไป มีอะไรทำก็ไปทำต่อซะ”
รพัทธ์กล่าวด้วยอารมณ์หงุดหงิด
พอไล่เลขาออกไปพ้นห้อง คราวนี้ก็หันมาต่อว่าพาฝันบ้าง
“ถ้าไม่ใช่เพราะน้องสาวฉันเป็นคนขอร้องให้จ้างเธอ
มีหรือที่เธอจะได้มาเป็นบอดี้การ์ดฉันแบบนี้ยัยทอม”
“นี่จะให้ฝันกราบขอบคุณลุงด้วยไหมล่ะ
หรือจะให้นวดไหล่ให้?”
เด็กสาวถาม พลางเดินเข้าไปทางด้านหลังเจ้านายหนุ่มที่เอาแต่ทำหน้ายักษ์เหมือนไม่พอใจตลอด
ไม่ทันจะกล่าวอะไรต่อ
มือเล็กของพาฝันก็ยื่นไปนวดไหล่ให้เขาทันที
“โอ๊ะๆ”
ตอนแรกกะจะด่าเด็กสาวอย่างเจ็บแสบ แต่พอโดนนวดเข้าหน่อย ชายหนุ่มถึงกับร้องขึ้นด้วยความรู้สึกผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูก
“นวดอีกๆ
ตรงไหล่ฉันรู้สึกจะตึงๆ ช่วยนวดแรงๆ หน่อยสิ”
มือเล็กนวดให้เขาตามคำสั่ง
รพัทธ์เปลี่ยนจากหน้ายักษ์มาเป็นยิ้มอย่างผ่อนคลาย
เผลอหลับตาพริ้มราวกับต้องมนต์มือเด็กสาว
“เป็นไงคะ
ทีนี้หายเครียดยัง?”
พาฝันก้มกระซิบถามที่ข้างหูเขา
ชายหนุ่มถึงกับขนลุกซู่ ตื่นเต็มตา
“เฮ้ย! ยัยทอมเธอกำลังทำอะไรฉัน ออกไปห่างๆ
ฉันเลยไป เป็นลูกน้องจะมาจับเนื้อต้องตัวเจ้านายแบบนี้มันใช้ได้ที่ไหนกัน ออกไป!”
“อ้าว! เมื่อกี้ยังทำท่าชอบอกชอบใจอยู่เลย
แต่ทำไมถึงเปลี่ยนอีกแล้วลุง ผีเข้าสิงลุงหรือเปล่าเนี่ย?”
“ผีบ้าบออะไรของเธอ
มีแต่เธอน่ะสิที่ทำของใส่ฉัน และอีกอย่างนะยัยทอม ขอเตือนตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไปห้ามเรียกฉันว่าลุง
เข้าใจมั้ย ต่อไปให้เรียกบอสส์ แล้วก็รีบย้ายร่างของเธอออกไปจากบ้านฉันซะ
เห็นแล้วรกหูรกตา”
รพัทธ์ตะคอกพาฝันเสียงดัง
แต่เด็กสาวยังยืนนิ่งจ้องหน้าเขาไม่หลบสายตา
“ยังจะมาจ้องหน้าอีกยัยนี่
จะไปไหนก็ไปไป๊ ฉันจะทำงาน เสียสมาธิหมดพอเห็นหน้าเธอแล้วอยากจะอ้วก
เป็นผู้หญิงดีๆ ทำไมไม่ชอบริอยากเป็นเลสเบี้ยนเสียได้”
รพัทธ์เริ่มด่าบอดี้การ์ดสาวฉอดๆ
พาฝันได้แต่ยืนงงอยู่สักพักเพิ่งรู้ว่าที่ชายหนุ่มพยายามกีดกันหล่อนออกจากน้องสาวเขาตลอดเวลาเพราะเขาเข้าใจผิดคิดว่าหล่อนเป็นเลสเบี้ยนนี่เอง
มันยิ่งทำให้พาฝันนึกอยากแกล้งเขามากขึ้น
“บอสส์ขา
ทำไมถึงไล่กันเหมือนหมูเหมือนหมาแบบนี้ล่ะคะ?”
แทนที่พาฝันจะทำตามคำสั่งกลับทำตรงกันข้าม
หมุนเก้าอี้ใหญ่ของบอสส์หนุ่มให้หันมาเผชิญหน้า
“เธอจะทำอะไรยัยทอม?”
“แล้วบอสส์อยากให้ทอมอย่างฉันทำอะไรล่ะคะ?”
เด็กสาวกล่าวอย่างยียวน
ก่อนจะถือวิสาสะขึ้นนั่งคร่อมบนตักใหญ่ของบอสส์หน้ายักษ์
“ยิ้มหน่อยสิคะบอสส์”
พาฝันใช้มือดึงแก้มเขาสองข้างให้ฉีกยิ้มเหมือนเห็นเป็นตัวตลก
รพัทธ์โกรธจนควันออกหู
“ลงไปจากตักฉัน”
เขาเค้นเสียงลอดไรฟัน
แต่ดูเหมือนเด็กสาวจะทำเป็นเอาหูทวนลมไม่ได้ยินที่เขาสั่ง
“จะลงดีๆ
หรือเปล่ายัยทอม?”
“ไม่ลง”
“ไม่ลงใช่ไหม
เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน”
“จะทำไมคะ?”
“ไม่รู้ซะแล้วว่าเล่นกะใครอยู่ยัยเด็กเมื่อวานซืน”
โดยที่พาฝันยังไม่ทันได้ตั้งตัว
รพัทธ์ก็รั้งเอวคอดกิ่วเข้าหาอ้อมกอด
แล้วประเคนจูบให้เจ้าหล่อนจนไม่มีโอกาสแม้แต่จะส่งเสียงร้องสักแอะ
ลิ้นชายหนุ่มพยายามสอดส่ายเข้าไปดึงเอาลิ้นหล่อนมาดูดรัว
จนร่างเล็กสะท้านเคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบอย่างช่ำชองของเขา
รพัทธ์เองก็ลืมตัวว่ากำลังสั่งสอนเด็กสาวให้เข็ดหลาบที่บังอาจมาลูบคมผู้ใหญ่อย่างเขา
ทั้งสองต่างหลงใหลในรสจูบและสัมผัสอันเร่าร้อนของกันและกัน
แทบไม่มีใครอยากถอนริมฝีปากออกก่อน
ระหว่างที่มือใหญ่ของรพัทธ์กำลังเลื่อนไหลไปเรื่อยๆ
ตามเรือนร่างสาวน้อยจอมซ่าส์นั้น
ทั้งสองก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อประตูถูกผลักเข้ามาโดยไม่มีการเคาะขออนุญาตก่อน
“ว้าย! แม่เจ้า พี่พัทธ์ทำอะไรกับแม่นี่อยู่คะ?”
รพัทธ์กับพาฝันต่างลุกพรวดขึ้นยืนพร้อมกัน
หญิงสาวที่เพิ่งเข้ามาในห้องรี่ตรงไปดึงแขนรพัทธ์มากอดไว้แน่นราวจะประกาศความเป็นเจ้าของ
“แอนนี่ไม่ยอมนะคะพี่พัทธ์
ไหนบอกว่าต่อไปจะให้แอนนี่เป็นเบอร์หนึ่งยังไงล่ะคะ ทำไมถึงมีผู้หญิงคนอื่นอยู่อีกล่ะ?”
แอนนี่นางแบบสาวไฮโซต่อว่าชายหนุ่มด้วยความไม่พอใจ
จ้องมองไปยังพาฝันราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
“เธอออกไปก่อน”
รพัทธ์หันไปบอกพาฝันที่เอาแต่ยืนนิ่งเงียบมองเขากับสาวสวยวัย
28 ปีข้างๆ
พอหล่อนจะก้าวขาออกไป
พาฝันต้องสะดุ้งตกใจเมื่อเจ้านายกระชากแขนกลับมา
พร้อมกับประกบจูบอีกครั้งต่อหน้าต่อตานางแบบสาวรายนั้นแอนนี่แทบจะกรีดร้องด้วยความโมโหสุดขีด
“ออกไปรอพี่ข้างนอกก่อน
อีกห้านาทีเดี๋ยวพี่จะตามไป”รพัทธ์มามาดใหม่ แถมเรียกตัวเองว่าพี่หน้าตาเฉย
ทำให้พาฝันมึนตึ้บจนพูดอะไรไม่ออก แต่ก็ยังทำตามที่เขาสั่งแบบงงๆ
พาฝันแว่วได้ยินเสียงผู้หญิงคนนั้นโต้เถียงกับประธานหนุ่มเหมือนทั้งสองกำลังทะเลาะกันอย่างดุเดือด
สักพักผู้หญิงคนนั้นก็ผลักประตูออกมาจากห้องด้วยท่าทางโกรธจัด
พอเห็นพาฝันยืนอยู่หน้าห้อง แอนนี่ก็รี่ตรงเข้าไปหมายจะตบสั่งสอนเด็กสาวที่ริมาแย่งผู้ชายของหล่อน
แต่พาฝันเรียนรู้วิธีป้องกันตัวเองมาเป็นอย่างดีจึงหลบได้ทันมือตบของอีกฝ่าย ที่ฟาดมาสุดแรงเกิด
ทำให้แอนนี่เซถลาลงไปนั่งก้นจ้ำเบ้าอยู่กับพื้น
“แก! นังเด็กเมื่อวานซืน
คอยดูเถอะงานนี้ฉันไม่ยอมอยู่เฉยแน่คอยดู”
นางแบบสาวขู่ฟ่อ
พอลุกยืนทรงตัวได้ก็เดินกระทืบเท้าจากไปด้วยความอาฆาตแค้น
“น้องพาฝันสมกับเป็นบอดี้การ์ดของบอสส์จริงๆ
ทำเอาคุณแอนนี่เผ่นแน่บไปเลย”
จิตตราเลขาหน้าห้องที่กำลังยืนลุ้นอยู่หลังโต๊ะทำงานถึงกับเอ่ยปากชม
เมื่อเห็นเด็กสาวปราบนางแบบคนนั้นจนอยู่หมัด
จิตตราเพิ่งเข้าใจว่าทำไมเจ้านายถึงได้จ้างพาฝันมาเป็นบอดี้การ์ด
หล่อนอ่านแผนการของเขาออกก็ตอนนี้เอง
เพราะตลอดมาทุกคนในบริษัทต่างก็รู้ว่ารพัทธ์เป็นเพลย์บอย มีสาวๆ
มากหน้าหลายตาเข้ามาเสนอตัวให้เขาไม่เว้นแต่ละวัน
พอเขามีสัมพันธ์สวาทด้วยครั้งหนึ่งก็คือจบ ไม่เคยสานสัมพันธ์กับใครต่อถึงขั้นยกย่องให้เป็นแฟนออกหน้าออกตา
แต่ก็ยังมีผู้หญิงมากมายที่อยากก้าวขึ้นไปสู่ตำแหน่งแฟนของเขาจนตัวสั่น
ที่ออฟฟิศจึงมักเกิดสงครามแย่งชิงขึ้นบ่อยๆ และคงเพราะเหตุนี้กระมังเจ้านายหล่อนจึงได้จ้างพาฝันมาเป็นบอดี้การ์ด
จิตตราคาดเดา
“ต่อไปน้องพาฝันก็ดูแลเจ้านายของเราให้ดีๆ
ด้วยนะคะ พี่ฝากด้วย สงสารเจ้านาย”
“คะ?”คำพูดของจิตตรายิ่งทำให้พาฝันงงหนักเข้าไปใหญ่ไม่ทันถามอะไรต่อ
เจ้านายหนุ่มหล่อเนื้อหอมก็ผลักประตูออกมาเรียกหล่อน
“เข้ามานี่หน่อย”
พาฝันเดินกลับเข้าไปในห้อง
ไม่ได้เอ่ยปากถามอะไรเขาเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ ทั้งๆ
ที่อยากรู้แทบใจขาดว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างระหว่างเขากับผู้หญิงคนนั้น
“มานี่สิ”รพัทธ์กระดิกนิ้วชี้เรียกหล่อนเข้าไปหาที่เก้าอี้
พาฝันเดินเข้าไปหาเขาอย่างลังเล
“ตกใจหรือเปล่าเมื่อกี้?”
เขานั่งไขว่ห้างที่เก้าอี้
ใบหน้าเคร่งเครียดเวลาตั้งคำถาม ดวงตากลมโตที่จ้องมองมายังเขาใสแจ๋ว
รพัทธ์ได้แต่กลืนน้ำลายลงคอเบาๆ รู้สึกหวามไหวอย่างบอกไม่ถูก
นึกถึงตอนจูบแลกลิ้นกับพาฝันก็ยิ่งใจสั่นแรงขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
“เรื่องเล็กน้อย
ฝันเจอมายิ่งกว่านี้อีก”
เด็กสาวกล่าว
พร้อมกับกัดริมฝีปากด้วยความเคยชินแต่มันกลับกระตุ้นอารมณ์ของเขาอย่างบอกไม่ถูก
“ฝันมานั่งตักพี่สิ”
เขาคงบ้าไปเสียแล้วสิ
จู่ๆ ก็พูดแบบนั้นออกไป พาฝันคิดว่าตัวเองหูฝาด
“คะ…ว่าไงนะคะบอสส์?”
“มานี่”
เขายื่นมือยาวๆ ไปดึงแขนหล่อนเข้าหาอย่างหักห้ามอารมณ์พิศวาสเอาไว้ไม่อยู่
“บอสส์จะทำอะไรคะ?”
“ไม่ทำอะไรหรอก
แค่อยากลองดูอีกครั้งน่ะ”
ใช่แล้วล่ะ เขาคิด
ก็แค่อยากพิสูจน์อะไรบางอย่าง
เพราะสัมผัสและรสจูบของหล่อนทำให้เขาหยุดคิดถึงมันไม่ได้
“จูบฉันเหมือนที่เธอจูบเมื่อสิบนาทีก่อน”
รพัทธ์ออกคำสั่ง พร้อมกับยกร่างบอบบางขึ้นนั่งคร่อมตัก
“แต่ประตูไม่ได้ล็อก”
พาฝันหันไปมองทางประตูเพราะกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเดิม
“งั้นก็ไปล็อกซะ”
คำสั่งของเขาราวกับประกาศิต
พาฝันจึงเดินไปล็อกประตู ยืนนิ่งคิดอยู่ชั่วครู่
ก่อนเดินกลับมาที่เจ้านายหนุ่มซึ่งกำลังนั่งยิ้มรออยู่ด้วยหัวใจเต้นแรง
เกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่นะ
หรือเพราะเด็กสาวตรงหน้าเป็นของแปลกสำหรับเขา ก็หล่อนเป็นทอมบอยนี่นะ
เขาไม่เคยจูบกับทอมบอยแบบนี้มาก่อน จึงทำให้เขาตื่นเต้นสินะ ชายหนุ่มได้แต่คิดหาเหตุผลต่างๆ
นานามาอ้างกับตัวเอง
พาฝันยืนจ้องมองสบตาเขาเหมือนกำลังค้นลึกเข้าไปในดวงตาคู่นั้น
ตอนที่เห็นเขาที่สถานีรถไฟฟ้าหล่อนจำเขาได้
เพราะเคยเห็นรพัทธ์สมัยเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลายสองสามครั้งตอนไปส่งรินจันทร์ที่โรงเรียน
ตอนนั้นหล่อนคิดว่าเขาช่างเป็นผู้ชายมาดเท่ ท่าทางใจดี มีเสน่ห์ และเป็นสุภาพบุรุษ
แต่ไม่คิดว่าเมื่อได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด ผู้ชายเบื้องหน้าคนนี้ เนื้อแท้กลับเป็นซาตานร่านรัก
เอาไม่เลือกหน้า ผู้หญิงมากมายคงตกหลุมรักเขาง่ายๆ
“อยากลองจูบเพื่ออะไรคะสนองตัณหาคุณ
หรือแค่ต้องการแกล้งคนเล่นให้สะใจ?”
รพัทธ์เงยหน้าขึ้นจ้องผู้หญิงที่ยืนอยู่เบื้องหน้าด้วยไม่เชื่อหูตัวเอง
เด็กสาวท่าทางแก่นแก้วมองมายังเขาอย่างเอาเรื่อง
หล่อนไม่เหมือนกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เขาเคยสัมผัส หล่อนแตกต่างออกไป
จูบของหล่อนทำให้เขาสะท้านไปทั้งตัว สัมผัสอันเร่าร้อนนั้นก็เช่นกัน
มันตราตรึงเขาแม้ได้สัมผัสเพียงแค่ครั้งเดียว ถ้าได้ร่วมรักกับเจ้าหล่อนมันจะทำให้เขาสุขสุดยอดแค่ไหนกัน
ชายหนุ่มอยากจะรู้
ไม่มีความคิดเห็น:
โพสต์ความคิดเห็น